การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงใน NVDA 2019.3

ออกมาให้อัพเกรดกันแล้ว สำหรับ NVDA 2019.3 ซึ่งในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก 2 อย่าง คือ การเปลี่ยนแกนกลางของ Python จากรุ่น 2 เป็น 3 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และการเขียนระบบ speech subsystem ของ NVDA ใหม่สำหรับนวัตกรรมอันน่าตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ส่วนเสริมต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปใช้ Python 3 ด้วย ส่วนส่วนเสริมที่ไม่มีการพัฒนาต่อก็จะใช้กับ NVDA รุ่นนี้ไม่ได้ ซึ่งผู้ใช้ควรระมัดระวังก่อนที่จะอัพเกรดมาใช้ NVDA 2019.3 และเราก็ได้เขียน คำแนะนำก่อนจะอัพเกรดมาใช้ NVDA 2019.3 ไว้ให้อ่านกันล่วงหน้าแล้ว นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และการแก้ไขบั๊กต่างๆ มากมาย เช่น การรองรับ Java VMs 64 bit เพิ่มฟีเจอร์ Screen Curtain และ Focus Highlight เป็นต้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่สำคัญๆ บ้าง เราไปดูกันเลยครับ

คำแนะนำก่อนจะอัพเกรดมาใช้ NVDA 2019.3

เนื่องจาก NVDA 2019.3 ได้อัพเกรดแกนกลางของ Python ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พัฒนาตัวโปรแกรม เป็นเวอร์ชัน 3.0 ดังนั้นคำสั่งที่ใช้กับการเขียนส่วนเสริมหลายตัวจึงต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทำให้ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผู้ใช้ก็คือ ส่วนเสริมที่นักพัฒนาไม่ได้ตามอัพเดตให้ อาจจะใช้ไม่ได้ หรืออาจจะส่งผลให้ขั้นตอนการอัพเกรดใช้ไม่ได้เลยทีเดียว

สิ่งสำคัญขั้นแรกหากใครจะอัพเกรด NVDA 2019.2.1 (หรือเก่ากว่า) มาเป็น NVDA 2019.3 (หรือใหม่กว่า) ก็คือการทำให้มั่นใจก่อนว่าส่วนเสริมทั้งหมด ก่อนขั้นตอนการอัพเกรด สามารถทำงานร่วมกับ NVDA 2019.3 ได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้ขั้นตอนการอัพเกรดของเราผิดปกติไป

ในโพสต์นี้เราจึงจะแนะนำวิธีอัพเกรดในรูปแบบต่างๆ พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

มาดูกันว่ามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ใน NVDA 2019.2 บ้าง

ปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดกันแล้ว สำหรับ NVDA 2019.2 ถือเป็นรุ่นที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งใช้เวลาพัฒนาอยู่นานมากกว่าปกติพอสมควรเลยทีเดียว และหลังจากการพัฒนาอันยาวนาน (กว่าปกติ) เรามาดูกันว่าในรุ่นนี้จะมี feature อะไรใหม่ๆ ที่สำคัญๆ บ้าง

จุดเด่นที่เน้นใน NVDA 2019.2 ก็คือ เพิ่มความสามารถตรวจพบ Freedom Scientific braille displays, โดยอัตโนมัติ, การทดลองการตั้งค่าเพื่อหยุดการย้ายโฟกัสโดยอัตโนมัติของเบราวซ์โหมด (ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมได้), ตัวเลือกเพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านของเสียง Windows OneCore และการแก้ไขอื่นๆ

ฟีเจอร์ใหม่

  • ผู้ใช้สามารถตั้งค่าไม่ให้ NVDA เปิดเบราส์โหมดเป็นค่าเริ่มต้นเมื่อเปิดหน้าเว็บได้ โดยเข้าไปตั้งค่า Enable browse mode on page load ในการตั้งค่าเบราส์โหมด และเมื่อเลือกตัวเลือกนี้ผู้ใช้ยังสามารถเปิดเบราส์โหมดเองได้โดยกด NVDA+Space
  • เพิ่มช่องตัวกรองในหน้าตั้งค่า การออกเสียงเครื่องหมายวรรคตอน / สัญลักษณ์
  • เมื่อเลือกใช้ windows OneCore หรือ eSpeak-NG เป็นเสียงสังเคราะห์หลัก ผู้ใช้สามารถเปิดการตั้งค่า Rate Boost เพื่อเพิ่มความเร็วของเสียงสังเคราะห์ดังกล่าวได้ (สามารถเปิดและปิด Rate Boost ได้ทั้งใน การตั้งค่าเสียงและในริงคี)
  • ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งลัดเพื่อเปิดใช้งานโปรไฟล์ที่เคยสร้างไว้ได้ โดยจะต้องกำหนดคำสั่งลัดใน Input Gestures ด้วยตัวเองก่อน

มีอะไรใหม่ๆ ใน NVDA 2018.4

ปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดกันแล้ว สำหรับ NVDA 2018.4 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของปีนี้ ในรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์สำคัญอะไรใหม่ๆ บ้าง เรามาดูกันเลยครับ

  • สามารถอ่านสถานะการ reply หรือ forward ของอีเมลใน Microsoft Outlook ได้
  • สามารถอ่านรายละเอียด Unicode ของ emoji ได้แล้ว
  • ใน Microsoft Word NVDA สามารถอ่านระยะห่างระหว่างเคอร์เซอร์กับด้านซ้ายและด้านบนของหน้ากระดาษได้ โดยการกด NVDA+Delete
  • รองรับโปรแกรม Foxit Reader และ Foxit Phantom PDF ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ NVDA ร่วมกับโปรแกรมดังกล่าวได้
  • เปลี่ยนชื่อ Report help balloons ในการตั้งค่าการแสดงวัตถุ เป็น Report notifications เพื่อให้ครอบคลุมการตั้งค่าการอ่านการแจ้งเตือนอื่นๆ บน Windows 8 หรือใหม่กว่า
  • เปลี่ยนรูปแบบการตั้งค่าปุ่ม NVDA modifier key ในการตั้งค่าคีย์บอร์ด จากเดิมที่เป็น check box แยกกันให้มาอยู่ใน list เดียวกัน
  • NVDA จะไม่อ่านวันที่และเวลาใน system tray ซ้ำๆ บน Windows บางรุ่น

นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆ ดังกล่าวแล้ว ใน NVDA 2018.4 ยังมีการแก้ไขข้อผิดพลาดจาก NVDA รุ่นก่อนๆ ดังนี้

ตรวจสอบพร้อมติดตั้งส่วนเสริมของ NVDA ให้ใหม่สดเสมอ ด้วย Add-on Updater

เชื่อว่าทุกคนที่ใช้งานโปรแกรม NVDA ก็ย่อมต้องดาวน์โหลดส่วนเสริม (NVDA add-on) มาใช้งานกันอย่างแน่นอน และตัวส่วนเสริมเอง ส่วนมากก็จะมีการอัพเดต อาจจะแก้ไขข้อบกพร่อง เพิ่มเติมฟีเจอร์ หรืออาจจะแค่ปรับปรุงโค้ดไล่ตามตัวโปรแกรมหลักของ NVDA เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อไปได้ก็ตาม

Pages